ข่าว อาชญากรรมพาดหัวข่าววันนี้ ตำรวจป่าไม้สนธิกำลังร่วมเหยี่ยวดง-พญาเสือ บุกยึดซากสัตว์ป่าคุ้มครอง โดย Kwanjai ThaiLand - Thursday, 24 December 2020, 15:08 Facebook Twitter ReddIt Pinterest WhatsApp Email Print Tumblr Telegram VK LINE Viber เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ นายศักดิ์ชัย จงกิจวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า สั่งการให้นายถิรเดช ปาละสุวรรณ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าชุดเหยี่ยวดง สนธิกำลัง ชุดพญาเสือ และ บก.ปทส. นำหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ ค.260/2563 ลงวันที่ 23 ธันวาคม พุทธศักราช 2563 เข้าตรวจค้นโรงแรมแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา หลังได้รับการร้องเรียนว่าการครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครองจำนวนมาก ที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมหรูขนาดใหญ่ มี น.ส.ระวีวรรณ (ขอสงวนนามสกุล) ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการโรงแรมดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้น ก่อนทำการตรวจค้นบริเวณชั้น 1 ซึ่งเป็นร้านอาหาร และร้านกาแฟ พบว่ามีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง เช่นซากกระดองเต่านา ซากกระดองเต่ากระ เป็นต้น นอกจากนี้ในส่วนอื่นๆในโรงแรมยังพบซากสัตว์ป่าสายพันธุ์ไทยและสายพันธุ์ต่างประเทศ เช่น เสือดำ เสือโคร่ง เสือลายเมฆ และเต่าหา รวมถึง 34 ซาก จึงได้ทำการตรวจยึดไว้ รายงานข่าวแจ้งว่าระหว่างตรวจค้น ทาง น.ส.ระวีวรรณได้ให้ข้อมูลว่าซากสัตว์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของโรงแรมดังกล่าว ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ขณะนี้ไปปฏิบัติงานที่ต่างประเทศ ซึ่งขณะตรวจสอบถึงชั้นที่ 4 น.ส.ระวีวรรณได้หลบหนีออกจากโรงแรม และไม่สามารถติดตามตัวได้ ภายหลังจากการตรวจสอบพบว่า น.ส.ระวีวรรณ มีชื่อเป็นคณะกรรมการลงชื่อผูกพันของโรงแรมดังกล่าว ซึ่งมีทั้งหมด 2 คน โดยได้ขอประกอบกิจการโรงแรมและภัตตาคาร ขณะทึ่นายถิรเดช กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งผ่านเพจ “สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362” ว่าโรงแรมดังกล่าวมีการครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครองจำนวนมากจึงดำเนินการตรวจสอบ ในเบื้องต้นพบซากสัตว์ทั้งหมด เป็นของเจ้าของโรงแรมชาวไต้หวัน โดยผู้จัดการโรงแรมอ้างว่า เจ้าของโรงแรมซื้อซากสัตว์มาสะสมและประดับตกแต่งโรงแรมเท่านั้น ไม่ใช่ขบวนการล่าหรือค้าซากสัตว์ป่า แต่ขณะนี้เจ้าของโรงแรมเดินทางไปต่างประเทศ จึงไม่สามารถแสดงหลักฐานการครอบครองได้ ทั้งนี้จากการตรวจสอบลักษณะซากสัตว์มีร่องรอยกระสุนปืนบนผิวหนังคล้ายการถูกล่า และยังมีซากสัตว์ทะเลหายาก ทั้ง ซากเต่ากระ เต่านา เต่าหญ้า เต่าตนุ ซึ่งมีสภาพสมบูรณ์มาก โดยมูลค่าของกลางทั้งหมดมีกว่า 500,000 บาท หากมีซื้อขายกันในตลาดมืด เบื้องต้นเจ้าของโรงแรมมีตามความ ผิด พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีและปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยหลังจากนี้จะส่งตำรวจ บก.ปทส.สอบเพิ่มเติมอีกครั้ง เพื่อออกหมายเรียกเจ้าของซากสัตว์ป่าให้มาแสดงตัว และรับทราบข้อกล่าวหาต่อไป