วันที่ 30 กันยายน พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำคณะแถลงปิดคดีชิงทองคำรูปพรรณน้ำหนักกว่า 200 บาท จากห้างโลตัส ลาดพร้าววังหิน หลังตำรวจตามจับกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ขณะเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ โดยจับนายชัยมงคล ใจบุญอุปถัมภ์ ผู้ก่อเหตุ ได้ที่จังหวัดเลย พร้อมสร้อยคำทองคำ 1 เส้น และนางจันดา หรือ น้อย จันทร์โศก ภรรยาชาวลาว ได้ที่จังหวัดหนองคาย พร้อมสร้อยคำทองคำ 3 เส้น
จากนั้นขยายผลตามจับนายสุริยันต์ หรือ มอส นิลบรรพต ที่จังหวัดนครปฐม พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำ 22 เส้น ก่อสตามยึดอาวุธปืน รถจักรยานยนต์ พัดลมตั้งโต๊ะดัดแปลงเป็นที่ซุกซ่อนปืนและทองของกลาง โทรศัพท์มือถือ วิกผม และเสื้อผ้าวันเกิดเหตุ โดยการจับกุมครั้งนี้ ตำรวจไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตั้งแต่ห้างที่เกิดเหตุตามเส้นทางหลบหนี จุดทิ้งรถจักรยานยนต์ จุดเปลี่ยนเสื้อผ้า และขณะไปที่สถานีขนส่งหมอชิต โดยจากแผนประทุษกรรม พบว่า กลุ่มผู้ต้องหาทำงานเป็นทีม และแบ่งหน้าที่กันทำ
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยนายชัยมงคลรับว่าเคยก่อเหตุชิงทองในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เมื่อปี 2553 ได้ทองไปน้ำหนักกว่า 60 บาท ก่อนถูกจำคุกและพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2562 ซึ่งในปีเดียวกัน ได้ก่อเหตุอีกครั้งที่จังหวัดขอนแก่น ได้ทองไปน้ำหนักกว่า 400 บาท จากนั้นหลบหนีไปที่ สปป.ลาว ซึ่งจากนี้ ตำรวจจะขยายผลถึงทองคำของกลางที่เหลือต่อไป
