วันที่ 30 กันยายน ปุ้ย- ปิยาภรณ์ แสนโกศิก และ ณะ – ณรงค์ชัย เลิศกิตศิริ ผู้ถือลิขสิทธิ์การจัดประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 แถลงผลการพิจารณากรณี เฌอเอม ชญาธนุส ศรทัตต์ และ เคน สิทธิชัย เร็ววิโรจน์ โดยปุ้ย ปิยาภรณ์ กล่าวว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นถือว่า ทำผิดกฎข้อระเบียบของกองประกวด และจำเป็นต้องตัดสิทธิการประกวดต่อของเฌอเอมตั้งเเต่วันนี้เป็นต้นไป เนื่องจากในวันสมัครเจ้าตัวกรอกประวัติ เเละไม่ได้เปิดเผยความจริงว่าใครเป็นดูแลตั้งแต่ต้น
ทั้งนี้กฎระเบียบขององค์กรมีชัดเจน โดยเฉพาะข้อที่ 5.29 ว่าด้วยเรื่องการห้ามผู้เข้าประกวดนำพี่เลี้ยงเข้ามาในองค์กร ฯลฯ เพราะทางกองมีพี่เลี้ยงประจำกลุ่มนางงามแล้วกลุ่มละ 6 คน ซึ่งนางงามทุกคนรับทราบและมีการเซ็นสัญญาชัดเจนรวมถึงตัวเฌอเอมด้วย ส่วนที่เฌอเอมระบุว่า เคน สิทธิชัย เป็นเพียงโบรกเกอร์ คอยหางานให้ ประเด็นนี้ ส่วนตัวมีหลักฐานทั้งเอกสาร + คลิปวงจรปิด เเละพยานบุคคล ชัดเจนว่าไม่จริง สามารถนำไปพิสูจน์ได้ตามกระบวนการยุติธรรม
ทั้งนี้จากการแถลงข่าวเมื่อวานที่เคน สิทธิชัยระบุว่าเข้าร่วมประชุมไม่ถึง 5 ครั้งนั้นก็ไม่เป็นความจริง ตนมีหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดภายในห้องประชุม รวมไปถึงรายละเอียดงานที่ตัวเองเป็นผู้สั่งการกับเคนสิทธิชัยโดยตรงว่าเกิน 5 ครั้งเเน่นอน และถึงแม้เคน สิทธิชัย จะอ้างว่าได้เข้าประชุมเฉพาะงานขายกับสปอนเซอร์เท่านั้น แต่ยืนยันได้ว่า การประชุมเพื่อขายงานสปอนเซอร์นั้นจะต้องแจกแจงรายละเอียดรวมไปถึงกลยุทธ์ หรือที่เรียกว่าการกำจัดจุดอ่อน เพื่อเฟ้นเอาความสามารถของผู้เข้าประกวดออกมา ซึ่งนั่นถือเป็นรายละเอียดสำคัญและเป็นความลับของกองประกวด นั่นหมายความว่าในการประชุมทุกครั้งเคนสิทธิชัยจะต้องรับรู้ถึงกลยุทธ์ตรงนี้แน่นอน ส่วนที่เฌอเอมแถลงว่า เข้าพบตัวเองเพื่อจะ บอกเรื่องปัญหาสุขภาพและตั้งใจ ขอเคนสิทธิชัยมาเป็นผู้ดูแลระหว่างการประกวดนั้น ปุ้ย ปิยาภรณ์ รับว่า คราวแรกเฌอเอมติดต่อผ่านพี่เลี้ยงประจำกลุ่มว่าอยากขอพบตัวเองเเละคุณณะ เพื่อปรึกษาเรื่องปัญหาสุขภาพของน้อง เเต่เมื่อถึงวันที่เข้าพบ เฌอเอมโทรศัพท์มาคุยว่าจะพาผู้จัดการมาแนะนำด้วย โดยไม่ทราบว่าเป็นใคร กระทั่งถึงเวลานัดพบ เฌอเอมเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับเคนสิทธิชัย ยอมรับว่าส่วนตัวตกใจรู้สึกชาไปทั้งตัว ก่อนที่เคนสิทธิชัยที่ยกมือไหว้มาตั้งเเต่หน้าประตู และเดินมานั่งคุกเข่าข้างๆ พร้อมกล่าวขอโทษ รับว่าเคนดูแลน้องอยู่ ส่วนของเฌอเอมก็พูดระหว่างนั้นว่าตัวเองมีปัญหาสุขภาพ กิจกรรมใดๆ ที่หนักไปขอไม่เข้าร่วม ทั้งยังระบุว่า ไม่ว่าจะยังไงขอให้เฌอเอมได้เดินรอบไฟนอล เพราะตัดชุดมาแล้ว ตนจึงอยากถามสื่อมวลชนว่าหากได้ยินเเบบนี้รู้สึกยังไง ส่วนตัวรู้สึกไม่สบายใจเพราะดูไม่ยุติธรรมกับผู้ประกวดคนอื่น เเละรับว่าประโยคนี้ของเฌอเอมไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงที่เจ้าตัวอ้างว่าร่างกายไม่พร้อม แต่กลับขออยู่จนรอบสุดท้าย
